Alienum phaedrum torquatos nec eu, vis detraxit periculis ex, nihil expetendis in mei. Mei an pericula euripidis, hinc partem.

จัดทริปถ่ายภาพ Stock photo เสรีไทย Stock photo คือการขายภาพในเชิงพาณิชย์ เป็นการถ่ายภาพออกมาเพื่อจุดประสงค์การขายอย่างเดียวเท่านั้น โดยเหล่านัก Stock ที่ถ่ายออกมาไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งหรือภาพเคลือนไหว ต่างทำออกมาเพื่อขายเท่านั้น โดยคนที่จะซื้อภาพ Stock เหล่านี้จะเป็นพวกเหล่า เอเจนซี่ คนทำเว็บ นักเขียน นักทำโฆษณา เป็นต้น โดยภาพที่ถ่ายออกมานั้นต้องแต่งน้อยที่สุดเพราะ เพื่อคนที่นำไปใช้ต่อนั้น หรือ ซื้อภาพเราไปนั้นสามารถนำไปใช่ต่อในตาม Concept เขาได้อย่างมากที่สุด นอกจากนี้ยังมี Stock อีกหลายแบบมากมายเลย ต้องบอกว่า อาชีพ Stock นี้เป็นอาชีทพที่อิสระที่สุด ไม่ขึ้นอยู่กับใคร ขอมีกล้องตัวเดียวก็ขายภาพได้แล้ว ต้องบอกว่า สามารถหารายได้เสริมง่ายนการขายภาพได้เลย จากที่ถ่ายภาพลงสื่อ Online เปลี่ยนมาเป็นกำไรแทน ดังนั้นอาชีพ Stock จึงจัดเป็นอาชีพที่หารายได้เสริมง่ายที่สุด ถ่าย Stock จะเริ่มยังไง? การถ่าย Stock นั้นไม่ต้องอะไรมากขอมีเพียงไอเดียในการจัดรูปแบบการถ่ายภาพ สถานที่สวยๆในการถ่ายทำ Concept นั้นๆก็เพียงพอแล้ว พร้อมกับกล้องและอุปกรณ์คู่ใจเท่านั้น การถ่าย Stock สิ่งที่จำเป็นที่สุดคือ แนวคิดและ Concept เท่านั้น ยกตัวอย่าง การถ่ายภาพ Concept Coffee เราก็ต้องหาสถานที่ที่เป็นร้านกาแฟในการถ่าย พร้อมกับ Concept ในหัวที่กำจะออกมาในรูปแบบภาพถ่ายออกมา  การถ่ายภาพสต็อกนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นมืออาชีพหรือมือโปรเลยเพราะการถ่ายแบบขายนั้น ส่วนมากจะสิ่งจำเป็นหลักอยู่อย่างเดียวคือ การจัดองค์ประกอบภาพเท่านั้น  เพราะการถ่ายภาพออกมาเพื่อขายเพื่อที่จะทำให้คนที่ซื้อภาพไปนั้นนำไปใช้ต่อ ดังนั้นการจัดองค์ประกอบ ภาพจึงจำเป็น หลักๆก็มีแค่นี้ในการถ่ายภาพ Stock Concept ในการถ่ายภาพ Stock จำเป็นขนาดไหน ผมเคยได้คุยกับอาจาร์ย Suart นะครับว่า การจัดองค์ประกอบภาพหรือ Concept นั้นจำเป็นอย่างมากเพราะภาพที่จะออกมาและขายไปนั้นต้องสื่อชัดเจนว่าเรากำลังขายอะไร...

ร้านกาแฟ ร้านนั่งชิว แถวเสรีไทย หากพูดถึงร้านกาแฟ ต้องบอกว่าไม่มีใครไม่เคยไปร้านกาแฟกัน เพราะร้านกาแฟในปัจจุบันต้องบอกว่าเป็นบ้านหลังที่ 2 ของวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นวัยทำงาน วัยเรียน ผู้สูงอายุ ทุกเพศ ทุกวัยเลย ผมเคยถามนะว่า ทำไมถึงชอบไปร้านกาแฟกัน ทั้งๆที่ร้านกาแฟก็แค่ มีกาแฟ ของกิน เท่านั้น ส่วนมากพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากเปลี่ยนบรรยากาศ การอยู่บ้าน มาอยู่ร้านกาแฟ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นกาแฟ และมาพบปะเพื่อนกัน คนส่วนมากมักจะให้คำตอบแบบนี้  ดังนั้นในปัจจุบัน คนส่วนมากจึงหาร้านกาแฟที่สามารถนั่งได้เรื่อยๆ และร้านกาแฟต้องสวย ร่วมถึงมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการใช้งาน อาทิเช่น ที่ชาจแบต อินเตอร์เน็ต เป็นต้น แค่มีแค่นี้ การนั่งร้านกาแฟก็ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป [caption id="attachment_13602" align="aligncenter" width="960"] ร้านกาแฟ ร้านนั่งชิว แถวเสรีไทย[/caption] ร้านกาแฟ แถวเสรีไทย Blezz Space ต้องบอกว่าร้านกาแฟเป็นร้านที่คนส่วนมากจะใช้เวลากับเพื่อนฝูง ครอบครัว เป็นหลัก ดังนั้นมันคงจะดีถ้าร้านกาแฟที่เราตามหานั้นอยู่ใกล้บ้านเรา มาสะดวก สถานที่สวย และ เรียบง่าย และเป็นส่วนตัว ร่วมถึงที่สิ่งอำนวยความสะดวก ในวันนี้จะแนะนำร้านกาแฟย่านชานเมื่อง อย่าง ร้านกาฟ Blezz Space ที่อยู่ ถนน เสรีไทยกัน [caption id="attachment_13611" align="aligncenter" width="1024"] ร้านกาแฟ ร้านนั่งชิว แถวเสรีไทย[/caption] ร้านกาแฟ หรือทั้งตึกนี้จะมี 5 ชั้น โดยชั้นแรกเปิดประตูเข้ามาจะเป็นร้านกาแฟ ตั้งอยู่ข้างล่าง ชั้นสองจะมีการโชว์กระเบื้องลายโบราณ กระเบื้องสระว่ายน้ำ อยู่ ซึ่งบริเวณนี้ ถ้าใครชอบลายแปลกๆของกระเบื้องก็สามารถเข้ามาชมกันได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อ แต่อยากเข้ามาชมของกระเบื้องที่มีลายโดยการออกแบบจากช่างศิลปะโดยตรงได้  ชั้น...

อาการปวดหัวทำให้ความสามารถในการทำงานลดลง มีความสุขน้อยลง หัวใจเต้น ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ การกินยาแก้ปวดหรือยาที่ช่วยให้อาการปวดหัวทุเลาลง ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่อีกทางเลือกหนึ่งที่บางคนใช้บรรเทาหรือแก้อาการปวดหัวคือการดื่มกาแฟ กาแฟแก้ปวดหัวได้จริงหรือไม่? บางคนอาจเคยได้ยินว่ากาแฟสามารถช่วยรักษาอาการปวดหัวได้ก่อนที่มันจะทำลายความสุขระหว่างวัน ซึ่งเป็นเพราะปริมาณคาเฟอีนที่มีอยู่ในกาแฟ ที่สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้ และยังสามารถช่วยให้ร่างกายรับความเจ็บปวดต่าง ๆ ได้ดีขึ้น แต่ถ้าหากคิดว่าเรื่องนี้ยังไม่แน่ใจเท่ใดนัก ลองมาหาคำตอบไปด้วยกัน ดังนี้ ดื่มกาแฟ แก้อาการปวดหัวได้อย่างไร? จากผลการวิจัยที่สามารถอ้างอิงได้ว่า การดื่มกาแฟเพื่อช่วยลดอาการปวดศีรษะ ซึ่งมี 2 แนวทางหลักที่อธิบายได้ว่าทำไมกาแฟสามารถช่วยในการกำจัดอาการปวดหัวและคาเฟอีนมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร 1.อาการปวดหัวมัก เกิดขึ้นเมื่อร่างกายปล่อยสารอะดีโนซีนออกมาสู่ร่างกาย ซึ่งสารเคมีดังกล่าวจะทำให้หลอดเลือดเกิดการระคายเคืองและทำให้เกิดอาการปวดหัว เมื่อดื่มกาแฟและร่างกายได้รับสารคาเฟอีนจากกาแฟ สารคาเฟอีนจะหยุดยั้งการผลิตสารอะดีโนซีนและช่วยในการหดตัวของหลอดเลือด จึ่งส่งผลให้อาการปวดหัวค่อย ๆ ลดลง ร่างกายกลับสู่ภาวะปกติ 2.ผลการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับคาเฟอีน พบว่าสารคาเฟอีนสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมยาแก้ปวดได้เร็วกว่าปกติทำให้ร่างกายหายปวดหัวได้เร็วขึ้น การดื่มกาแฟจึงสามารถช่วยเร่งกระบวนการของการกำจัดอาการปวดหัว ด้วยเหตุนี้ หากไปซื้อยาบรรเทาอาการปวดที่ร้านขายยา ตัวยามักประกอบด้วยคาเฟอีนซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการบรรเทาอาการปวด เช่น อะซีตามิโนเฟน แอสไพริน ไอบูโพรเฟน อินโดเมทาซิน และเออร์โกตามีน โดยคาเฟอีนจะไปเพิ่มประสิทธิภาพของยาและช่วยให้ยาออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว การดื่มกาแฟที่มีสารคาเฟอีนจะช่วยบรรเทาอาการปวดหัว เมื่อดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ อย่างไรก็ตาม หากมีอาการปวดหัวแบบเรื้อรัง หรือปวดรุนแรงมาก ควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างตรงจุดจะเหมาะสมกว่า...

นับเป็นช่วงเวลานานหลายปีที่การดื่มกาแฟถูกมองว่าเป็นปีศาจร้าย ทำลายสุขภาพ และอาจก่อให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคหลอดเลือดอุดตัน แต่ในปัจจุบัน ความเชื่อต่าง ๆ กำลังถูกลบล้างด้วยการศึกษาวิจัยสมัยใหม่ มาดูกันว่าประโยชน์อันโดดเด่นของการดื่มกาแฟ มีไรบ้าง 1.ยับยั้งการพัฒนาของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 จากการศึกษาพบว่า สารต้านอนุมูลอิสระที่พบในกาแฟ ช่วยลดความเสี่ยงของการพัฒนาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ โดยผู้ที่ดื่มกาแฟจำนวน 6 ถ้วยต่อวัน จะลดความเสี่ยงประมาณ 50% เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟ 2.ลดความเสี่ยงการเกิดโรคพาร์กินสัน จากผลการวิจัยพบว่า ผู้ชายที่ดื่มกาแฟ 4-5 ถ้วยต่อวัน หรือผู้หญิงที่ดื่มกาแฟ 1-3 ถ้วยต่อวัน จะลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคพาร์กินสันประมาณ 50% เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟ 3.มีสารต้านอนุมูลอิสระ ในกาแฟพบว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น กรดคลอโรจินิก เมลาโนไอดีนส์ ส่วนผสมโพลีฟีโนลิก หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ฟลาโวนอยด์ โดยมีคุณสมบัติในการยับยั้งโรค สามารถป้องกันปฏิกิริยาออกซิเดชั่นหรือกระบวนการเสียหายแก่เซลล์ได้ 4.ลดความเสี่ยงของการเกิดนิ่วในไต การดื่มกาแฟช่วยลดความเสี่ยงได้ เนื่องจากจะเพิ่มปริมาณปัสสาวะและป้องกันการตกผลึกของแคลเซียมออกซาเลตซึ่งเป็นสารประกอบทั่วไปของนิ่วในไตนั่นเอง ประโยชน์เด่น ๆ ของการดื่มกาแฟ ยังมีหลายประการ เช่น ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ หรือกระตุ้นให้เกิดภาวะการตื่นตัวของสมอง อย่างไรก็ตาม การดื่มกาแฟควรเป็นกาแฟที่ไม่มีน้ำตาล นมข้นหรือไขมัน หรือแต่งเติมรสชาติความหวานแต่เพียงพอดี ไม่หวานมันมากจนเกินไปก็จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพร่างกาย...

เมล็ดกาแฟมีมากมายหลายสายพันธุ์ แต่ที่ถูกจัดอันดับให้เป็นเมล็ดกาแฟที่ดีที่สุดในระดับโลก ก็มีทั้งหมด 15 สายพันธุ์ดังนี้ 1.Hawaiian Kona Coffee กาแฟที่ปลูกขึ้นบนเกาะฮาวาย มีรสชาติติดเปรี้ยวเล็กน้อย แต่ก็อร่อยถูกใจคอกาแฟมากทีเดียว 2.Fazenda Santa Ines กาแฟโบราณจากบราซิล มีกลิ่นหอมหวานและรสชาติที่อร่อย ละมุนละไมที่สุด 3.Saint Helena Coffee กาแฟที่ปลูกขึ้นบนเกาะกลางมหาสมุทรแอตแลนติก มีกลิ่นหอมและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ 4.Hacienda La Esmeralda มีกลิ่นหอมที่ไม่เหมือนใคร และมีรสชาติกลมกล่อม แถมคว้ารางวัลประกวดกาแฟทั่วโลกหลายปีซ้อนอีกด้วย 5.Black Ivory Coffee กาแฟช้างไทย ที่ให้รสชาตินุ่มนวล ไม่ขม อร่อยมาก 6.Los Planes Coffee กาแฟที่มีรสชาตินุ่มละมุน ให้กลิ่นหอมสดชื่น โดยเป็นกาแฟท้องถิ่นของเมือง EI Salvador 7.Jamaican Blue Mountain Coffee กาแฟที่มีรสชาติติดขมอยู่บ้าง แต่ก็มีความอร่อยและนุ่มละมุนลิ้น โดนใจสุดๆ 8.Arabica Coffee กาแฟที่มีรสชาติกลมกล่อม ได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะในไทย 9.Robusta Coffee กาแฟที่มีกลิ่นหอมฉุน และมีรสชาติที่อร่อย เข้มข้น โดนใจคอกาแฟเป็นอย่างมาก 10.Kopi Luwak หรือที่เรียกว่ากาแฟชะมด เป็นกาแฟที่มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และมีรสชาติที่ไม่เหมือนใคร 11.Finca EI Injerto Coffee กาแฟที่ต้องยกความเป็นเลิศให้กับรสชาติที่โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร แต่ก็หายากมากทีเดียว 12.Libelica Coffee กาแฟที่ถูกผลิตขึ้นมาจากแถบแอฟริกา นิยมนำมาผสมรวมกับกาแฟสายพันธุ์อื่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มรสชาติได้ดี 13.Exelsa Coffee กาแฟที่มีกลิ่นเหม็นเขียวหน่อยๆ แต่ก็มีความอร่อยและกลมกล่อมเหมือนกัน 14.Blue Mountain Coffee เป็นกาแฟที่มีรสชาติอร่อย และมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก แถมยังมีกลิ่นหอมชวนดื่มอีกด้วย 15.Mokka Coffee สายพันธุ์กาแฟที่แทบจะไม่มีใครไม่รู้จัก มีกลิ่นหอมและรสชาติเฉพาะตัว แต่หาซื้อได้ยาก และนี่ก็คือ 15 อันดับกาแฟที่ได้รับความนิยมทั่วโลกนั่นเอง ซึ่งก็ต้องลองมาดื่มกันดู...

แหล่งปลูกกาแฟของโลกมีที่ไหนบ้าง จากประวัติการค้นพบกาแฟของชายหนุ่มนามว่า “คาลดี” ในศตวรรษที่ 6 จนกลายมาเป็นความนิยมชมชอบในการดื่มกาแฟและแพร่หลายออกไปทั่วโลก ซึ่งแหล่งเพาะปลูกกาแฟที่สำคัญก็มีหลายประเทศดังต่อไปนี้ 1.จาไมก้า จาไมก้า เป็นประเทศที่มีกาแฟกลิ่นอายหอมหวานที่มีชื่อว่า Blue Mountain โดยเพาะปลูกบนพื้นที่สูงสุด ซึ่งมีอากาศและแร่ธาตุเหมาะสมในการเจริญเติบโต กาแฟชนิดนี้ยังส่งออกไปยังประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และเยอรมัน 2.โคลัมเบีย โคลัมเบียสามารถผลิตกาแฟได้เป็นอันดับ 3 ของโลก โดยเกือบทั้งหมดจะปลูกเป็นพันธุ์อาราบีก้า สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี กาแฟที่โคลัมเบียนั้น จะขึ้นชื่อเรื่องความเข้มข้น มีกลิ่นหอม และรสชาติที่แสนกลมกล่อม 3.บราซิล เป็นประเทศที่ปลูกกาแฟมากที่สุดในโลกเช่นกัน โดยเป็นพันธุ์อาราบีก้า ซึ่งปลูกมากกว่า 4 พันล้านต้น ทำให้ต้องใช้เครื่องจักรในการเก็บเกี่ยว จึงทำให้มีผลผลิตสูง แต่คุณภาพต่ำ กาแฟที่ขึ้นชื่อของบราซิล มีรสชาตินุ่ม แต่เข้มข้นปานกลาง 4.เวียดนาม เป็นประเทศที่ปลูกกาแฟเป็นอันดับ 2 ของโลก เบียดชนะโคลัมเบีย ทำให้โคลัมเบียหล่นไปเป็นอันดับ 3 แต่ก็ประสบปัญหาด้านคุณภาพ เนื่องจากมุ่งมั่นด้านปริมาณมากเกินไป แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีความพยายามควบคุมคุณภาพจากรัฐบาล 5.อินเดีย กาแฟจากอินเดียมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งพันธุ์ที่ปลูกโดยส่วนใหญ่จะเป็นพันธุ์โรบัสต้า โดยปลูกทางตอนใต้ของประเทศ และอินเดียก็เป็นผู้ผลิตกาแฟเป็นอันดับ 5 ของโลก แหล่งเพาะปลูกกาแฟของโลก ยังมีอีกหลายแห่ง และมีการคิดค้นวิธีการใหม่ ๆ เพื่อให้การเพาะปลูกมีคุณภาพและรสชาติที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเป็นข้อดีที่คอกาแฟจะได้ลิ้มลองรสชาติกาแฟที่หอมอร่อย และมีความสุขในการดื่มกาแฟที่มีความหลากหลายมากกว่า 50 สายพันธุ์ทั่วโลก...

สำหรับองค์ประกอบหลักทางเคมีที่อยู่ในเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่วแล้ว สารอาหารที่เป็นองค์ประกอบหลักก็คือ คาร์โบไฮเดรต โดยพบร้อยละ 16 - 37 รองลงมาคือ ไขมัน พบที่ร้อยละ 15 – 20 ส่วนคาเฟอีนซึ่งเป็นสารสำคัญของกาแฟ พบค่าเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 1.0 – 2.6 ส่วนในกาแฟที่เราดื่มกันอยู่เป็นประจำทุกๆ เช้า มีข้อมูลจากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระบุไว้ว่า กาแฟ 1 ถ้วย ที่มีผงกาแฟ 2 ช้อนโต๊ะ หรือประมาณ 10 กรัม ชงกับน้ำร้อนได้ปริมาณ 180 มิลลิลิตร พบว่ามีส่วนประกอบสำคัญดังต่อไปนี้ คาเฟอีน                 ร้อยละ 8.25% กรดคลอโรจินิค     ร้อยละ 18.15% น้ำตาลรีดิวซิ่ง        ร้อยละ 1.45 คาร์โบไฮเดรต        ร้อยละ 19.9 เป็ปไทด์                  ร้อยละ 6.0 โปแตสเซียม           ร้อยละ 10.0 ไตรโกเนลลิน         ร้อยละ 5.15 แร่ธาตุอื่นๆ             ร้อยละ 13.60 กรด                         ร้อยละ 17.3% มีความเป็นกรดด่างอยู่ระหว่าง 4.9 – 5.2 สำหรับปริมาณคาเฟอีนที่ได้รับในกาแฟแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 197) พ.ศ. 2543 เรื่องกาแฟ ได้กำหนดปริมาณคาเฟอีนไว้ในกาแฟชนิดต่างๆ ดังนี้ 1.กาแฟแท้ (หมายถึง กาแฟที่ผ่านการคั่ว บด โดยไม่มีการผสมสิ่งอื่นใด) ต้องมีคาเฟอีนไม่น้อยกว่าร้อยละ 1 ของน้ำหนัก 2.กาแฟผสม (หมายถึง กาแฟแท้ที่มีส่วนผสมอื่น ใช้สารให้ความหวาน) ต้องมีคาเฟอีนไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.2 ของน้ำหนัก 3.กาแฟสำเร็จรูป (ชนิดผง) ต้องมีคาเฟอีนไม่น้อยกว่าร้อยละ 2.5...

รู้ไหมว่าการดื่มกาแฟทุกวันมีข้อดีอย่างไรบ้าง โดยวันนี้เราก็ได้รวบรวม 6 ข้อดีการดื่มกาแฟเป็นประจำมาบอกต่อกัน ใครที่คิดว่าการดื่มกาแฟแล้วจะมีแต่โทษ ลองมาดูประโยชน์ของการดื่มกาแฟกันดูบ้าง ไม่แน่ว่าคุณอาจจะอยากหันมาลองจิบกาแฟเพื่อสุขภาพกันบ้างก็เป็นได้ 1.เสริมสร้างความจำ กาแฟจะช่วยกระตุ้นความจำให้ดีขึ้น ลดอาการขี้หลงขี้ลืม และป้องกันโรคอัลไซเมอร์เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุอีกด้วย แต่ต้องเป็นกาแฟดำหรือกาแฟสดที่ไม่มีน้ำตาล และครีมเทียมเป็นส่วนผสมเท่านั้น 2.ป้องกันโรคพาคินสัน จากการวิจัยพบว่าการดื่มกาแฟทุกวัน สามารถป้องกันโรคพาคินสันได้อย่างดีเยี่ยม โดยลดความเสี่ยงได้มากถึง 25% เลยทีเดียว 3.เพิ่มความตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า เพราะกาแฟมีคาเฟอีนที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัวได้ดี และยังทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า มีพลังพร้อมลุยมากขึ้น เหมาะมากกับนักกีฬา นักออกกำลังกายและคนวัยทำงาน 4.ลดความเครียด ในคนที่เครียดบ่อยๆ การดื่มกาแฟทุกวันก็จะช่วยลดความเครียดได้ แต่ต้องดื่มไม่เกิน 3 แก้วต่อวันเท่านั้น หากมากกว่านี้อาจเป็นการเพิ่มความเครียดแทน 5.ป้องกันโรคเกาต์ ไม่อยากเป็นโรคเกาต์ การดื่มกาแฟช่วยได้ โดยเฉพาะคนวัย 40+ ขึ้นไป ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการเป็นโรคเกาต์ได้มากถึง 60% เลยทีเดียว 6.ลดความเสี่ยงโรคนิ่ว นอกจากข้อดีที่กล่าวมาแล้ว ก็สามารถลดความเสี่ยงโรคนิ่วได้อีกด้วย โดยเฉพาะโรคนิ่วในถุงน้ำดี เพราะฉะนั้นมาดื่มกาแฟเป็นประจำทุกวันกันเถอะ จะเห็นได้ว่าการดื่มกาแฟทุกวัน ช่วยให้เกิดผลดีต่อสุขภาพได้มากมาย แต่ก็ต้องดื่มให้ถูกวิธีและดื่มอย่างเหมาะสมด้วย จะได้ไม่มีปัญหาสุขภาพตามมานั่นเอง...

อยากดื่มกาแฟ แต่ไม่อยากได้รับคาเฟอีนจากในกาแฟต้องทำอย่างไรดี คำตอบก็คือ ให้เลือกดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพที่ไม่มีคาเฟอีนจะดีที่สุด เพราะการเลือกดื่มกาแฟประเภทนี้จะทำให้คุณยังคงสามารถดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟได้โดยไม่มีผลข้างเคียงของคาเฟอีนให้ต้องกังวลใจอีกต่อไป คอกาแฟจำนวนมากมักดื่มกาแฟเพื่อกระตุ้นร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า ไม่ง่วง ซึ่งการที่ร่างกายไม่ง่วงนี้เป็นผลมาจากคาเฟอีนในกาแฟที่ทำให้ร่างกายตื่นตัว แต่หลายคนได้รับผลข้างเคียงจากคาเฟอีนในทางที่ไม่ดีนัก ไม่ว่าจะเป็นใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว ท้องไส้ปั่นป่วน ดังนั้นเพื่อให้สามารถดื่มกาแฟได้อย่างปลอดภัย โดยไม่เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายดังที่กล่าวมาข้างต้น จะต้องเลือกดื่มกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนเท่านั้น กาแฟเพื่อสุขภาพแบบไม่มีคาเฟอีน เป็นอย่างไร? กาแฟที่ไม่มีคาเฟอีน เป็นกาแฟธรรมดาทั่วๆ ไปที่เรานำมาชงดื่มกัน เพียงแต่จะมีการนำไปผ่านกระบวนการกำจัดคาเฟอีนออกไปประมาณ 97-99% ซึ่งจะยังคงได้รสชาติที่ดีของกาแฟ เพียงแต่จะมีคาเฟอีนในกาแฟในปริมาณที่น้อยมาก ทำให้สามารถดื่มได้มากเท่าที่ต้องการ ข้อควรรู้เกี่ยวกับกาแฟไม่มีคาเฟอีนเพื่อสุขภาพ 1.กาแฟไม่มีคาเฟอีน เป็นกาแฟที่ผ่านกระบวนการสกัดคาเฟอีนออกไป ซึ่งทำให้สารอาหารในเมล็ดกาแฟยังคงมีอยู่เหมือนเดิม แต่รสชาติและกลิ่นของกาแฟอาจจะอ่อนลงเล็กน้อย 2.กาแฟไม่มีคาเฟอีน เหมาะสำหรับคนที่มีความไวต่อคาเฟอีน ดื่มแล้วไม่ทำให้อาการปวดหัว ไม่ทำให้คลื่นไส้ ใจสั่น เหมือนกับการดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนทั่วไป 3.มีการศึกษาพบว่าการดื่มกาแฟไม่มีคาเฟอีนมากกว่า 2 แก้วต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ เมื่อรู้ประโยชน์ของกาแฟไม่มีคาเฟอีนแบบนี้แล้ว ก็ลองหันมาดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพไม่มีคาเฟอีนกันเถอะ...

เมื่อไหร่ก็ตามที่ต้องทำงานจนดึก แต่กลับรู้สึกง่วง อ่อนเพลีย ไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่า หรืออยากปลุกร่างกายให้ตื่นพร้อมรับสำหรับการทำงานในตอนเช้า การได้ดื่มกาแฟสักแก้วเป็นสิ่งที่ช่วยได้มาก เพราะในกาแฟมีคาเฟอีนที่มีคุณสมบัติลดสารที่ทำให้ง่วงนอนในสมองลงได้ ทำให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ไม่ง่วง แต่หากได้รับสารคาเฟอีนมากเกินไปก็อาจจะก่อให้เกิดโทษได้เช่นกัน ผลเสียของคาเฟอีนที่มีต่อสุขภาพ คาเฟอีนอาจส่งผลเสียต่อผู้ดื่มกาแฟได้หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไป เพราะคาเฟอีนมีผลต่อการจับสารที่ทำให้ง่วงในสมอง ทำให้สมองขาดสารที่ทำให้ง่วงนอน หากมีคาเฟอีนในสมองมากเกินไปจะทำให้ร่างกายไม่ง่วง เกิดการนอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท เมื่อนอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิทติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกหลายอย่างตามมา นอกจากนี้ การที่ร่างกายได้รับคาเฟอีนมากเกินไป ก็จะส่งผลเสียต่อร่างกายของผู้ดื่มกาแฟดังต่อไปนี้ ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ เพราะคาเฟอีนมีฤทธิ์ในการกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะ ในคนที่เป็นไมเกรนอาจทำให้อาการหนักขึ้นได้ คาเฟอีนมีฤทธิ์กระตุ้นประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็วมากผิดปกติ จากที่กล่าวมาข้างต้นว่าคาเฟอีนมีฤทธิ์กระตุ้นประสาททำให้ใจสั่น ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้ด้วย คาเฟอีนเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมในผู้หญิง คาเฟอีนมีคุณสมบัติในการช่วยขับน้ำออกจากร่างกายจึงทำให้ปัสสาวะบ่อย อีกทั้งยังมีคุณสมบัติเป็นยาระบายจึงทำให้คนที่ได้รับคาเฟอีนมากเกินไปจนเกิดอาการท้องเสียหรือท้องไส้ปั่นป่วนได้ ข้อเสียดังที่กล่าวมาข้างต้นล้วนเกิดจากการที่ร่างกายได้รับคาเฟอีนจากกาแฟทั้งสิ้น ซึ่งหากเกิดอาการผิดปกติดังกล่าวหลังดื่มกาแฟควรหยุดดื่มทันที หรือดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ดื่มมากจนเกินไปจะดีกว่า...